จานิสซารี่ กองทัพพิทักษ์สุลต่าน

มาแล้วว เรื่องที่สองที่จะเขียนเกี่ยวกับจักรวรรดิออตโตมัน วันนี้มารู้จักกับทหารชั้นยอดที่ขึ้นตรงกับสุลต่านกันค่ะ

. ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนในการรบแต่ละครั้งก็จะมีกองทหารที่ทำหน้าที่แตกต่างกันไป แม่หมีควายเคยดูซีรีย์กึ่งสารคดีเรื่องการตั้งจักรวรรดิออตโตมัน ตอนจะตีเมืองคอนสแตนติโนเปิล หลังจากถล่มยิงธนูมั่งปืนใหญ่บ้าง แม่ทัพก็จะสั่งให้ทหารหน่วยกล้าตายหรือที่มีชื่อเรียกว่าพวก #หัวบ้า คือใจกล้าบ้าบิ่น หน้ามืดไม่กลัวตาย ตั้งใจรบถวายชีวิตให้อัลเลาะห์บุกเป็นทัพหน้าก่อน และกองทัพไม้ตายท้ายสุดคือเหล่า janissary กองทัพพิทักษ์สุลต่านอันมีชื่อเสียงน่าเกรงขามไปทั่วยุโรปและเอเชียกลางในสมัยนั้นบุกเข้าเมืองต่อสู้กับทหารรักษาเมืองเป็นด่านสุดท้าย พวกเขาเป็นใครมาทำความรู้จักกันค่ะ . . เจนิสซารี่ เป็นกองทหารที่ก่อตั้งในรัชสมัยสุลต่านมูรัด โดยการเกณฑ์เด็กหนุ่มชาวคริสต์อายุตั้งแต่ 8-18 ปี จากทั่วยุโรปที่อยู่ภายใต้จักรวรรดิออตโตมัน ไม่ว่าจะเป็นฮังการี เซอร์เบีย อัลบาเนีย กรีก แล้วให้ทุกคนเปลี่ยนมานับถืออิสลาม ก่อนจะทำการฝึกทั้งบุ๋นและบู๊ ขี่ม้า ยิงธนู ฟันดาบ สารพัดอาวุธ มวยปล้ำ MMA ศิลปะ ดนตรี กีฬา คำนวณ วิทยาศาสตร์ และแน่นอน คัมภีร์อัลกุรอ่าน ฝึกหนักพอๆกับหน่วยซีลเลยค่ะ .

. พออายุได้ราว 25 ปี ก็จะมีการคัดเลือก ใครโดดเด่นคะแนนนำ รบโคตรเก่ง ก็ไปเป็นจานิสเซรี สุดยอดทหารเหนือทหารทั่วไป ซึ่งในหน่วยจานิสเซอรี่เองยังแบ่งเป็นหน่วยย่อยตามความถนัดของแต่ละคน . หน่วยนี้นอกจากจะรบเก่งแล้วเครื่องแบบก็เท่อีกด้วย หนุ่มจานิสซารี่จะอยู่ในเสื้อคลุมสีสันสดใสแมทช์กับกางเกงขี่ม้าพองๆ สวมหมวกทรงสูงมีผ้ายาวด้านหลัง ห้อยดาบโค้งที่เรียก Killij เหน็บดาบคายากัน พกขวานศึก หรือถ้าคุ้มกันสุลต่านก็จะเพิ่มออปชั่นง้าวใบมีดโตๆ เข้าไปอีก .

กฎเหล็กของจานิสซารี่คือไว้หนวดได้ แต่ห้ามไว้เครา และห้ามแต่งงานนะคะ ต้องเป็นโสดตลอดชีวิตจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อ่านมาถึงตรงนี้ ถึงแม้จานิสซารี่จะต้องทุ่มกายถวายชีวิตให้สุลต่านแต่ก็แลกมาด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ได้ของขวัญ เงินทองจากราชสำนัก ได้รับการยอมรับว่าเป็น “บุตรแห่งสุลต่าน” บางครั้งก็ได้ตำแหน่งทางการเมืองไปปกครองเมืองโน้นเมืองนี้อีกด้วย .

. กองทหารจานิสซารี่เก่งทั้งบุ๊นทั้งบู๊ เครื่องแบบก็เท่ ยามออกศึกก็แสนจะเร้าใจ เมื่อจานิสซารี่จะบุก จะต้องมีการประโคมเป่าแตรปลุกขวัญกำลังใจให้ฮึกเหิมอยากตัดหัวข้าศึก ในขณะเดียวกันฝั่งตรงข้ามได้ยินก็ขวัญหายไปตามๆกัน เมื่อรู้ว่าจะต้องประจันบาญกับทหารไร้พ่ายจานิสซารี่ . พวกเขาเหล่านี้เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้สามารถพิชิตดินแดนคริสเตียน ขยายอาณาเขตของจักรวรรดิออตโตมันออกไปทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป ภายในศตวรรษที่ 16 กองทัพก็มีทหารกว่า 20,000 นาย และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอีกสองศตวรรษ . . แม้จานิสซารี่สร้างชื่อเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งภาคพื้นยุโรปและโลกมุสลิม แต่ก็เป็นดาบสองคม เป็นหอกข้างแคร่ที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงสุลต่าน เมื่อทหารมีบทบาทและอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ แถมมีกองกำลังสุดแกร่งอยู่ในบังคับบัญชา ตราบใดที่ฝั่งสุลต่านเข้มแข็งก็เอาอยู่ แต่ยามเมื่อฝั่งการปกครองอ่อนแอ จานิสซารี่ก็เป็นเสมือนผู้ชักใยเบื้องหลัง มีการก่อกบฎหลายครั้ง บางช่วงมีอำนาจขนาดสั่งเปลี่ยนสุลต่านได้ .

Janissary เริ่มเสื่อมอำนาจลงในราวต้นศตวรรษที่ 17 กฎต่างๆ ก็เริ่มได้รับการผ่อนปรนรวมถึงกฎที่ห้ามมีครอบครัว และถึงแม้จำนวนจะเพิ่มขึ้น แต่คุณภาพก็อ่อนด้อย มีเพียงไม่กี่นายที่พร้อมออกรบ .

ต่อมา ในศตวรรษที่ 19 Janissary ก็ค่อยๆ ถูกยกเลิกไปอย่างช้าๆ เหลือเป็นตำนานจนทุกวันนี้ .

ว่าแล้วแม่หมีควายมีสร้อยทหารจานิสซารี่จากตุรกีมาด้วยนะคะ เป็นสร้อยทหารจานิสซารี่บนหลังม้ากำลังเหลียวหลังยิงธนู เพราะอาวุธที่หน่วยนี้ถนัดมากๆคือธนูค่ะ ดูในเม้นท์เลยค่ะ