กำไลวงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากโคลงชื่อ The lady of Shallot ของลอร์ดเทนนีสันกวีชาวอังกฤษ โดยตรงกลางกำไลเป็นรูปสลักนูนต่ำของสาวงามที่มีนามว่า อีเลนแห่งแอสโทแลต ผู้ต้องคำสาปให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในปราสาทกลางป่า วันๆ ก็นั่งทอผ้าอยู่บนหอคอย จะชมโลกภายนอกทั้งทีก็ต้องมองผ่านเงาสะท้อนของกระจกเท่านั้น ห้ามมองดูวิวตรงๆ บนกำไล รูปสลักนูนต่ำของเธอแหงนหน้าอย่างตกตะลึง ด้านหลังเป็นกรอบบานกระจกที่ส่วนบนเป็นตรา fleur de lis แทนเครื่องหมายอัศวินที่เป็นต้นเหตุให้เธอละเมิดคำสาป ซ้ายขวาเป็นกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ผ้าที่ทอขาดเป็นชิ้นๆ สาเหตุก็เพราะเธอบังเอิญไปเห็นเงาอัศวินหนุ่มสุดเท่ของคิงอาเธอร์ ผู้มีนามว่าเซอร์ลานสลอต กำลังขี่ม้าไปยังปราสาทคาเมลอต แค่เห็นเพียงแว๊บเดียวก็ทำให้เธอตกหลุมรักเข้าอย่างจังจนเผลอมองออกไปตามเส้นทางที่อัศวินผู้นั้นมุ่งไป และทันใดนั้นเอง กระจกเงาที่สะท้อนโลกภายนอกให้เธอได้ดูก็แตกเปรี้ยง คำสาปมาตกอยู่กับตัวเธอ และเธอรู้ดีว่าความตายจะมาหาเธอในไม่ช้า
ด้วยเวลาที่เหลือไม่มากแล้ว เธอจึงรีบล่องเรือที่มีชื่อว่า เลดี้ออฟชาร์ล็อต เพื่อจะไปตามหาเซอร์ลานสล้อตที่ปราสาทคาเมลอต โดยทั้งสองข้างของกำไลทำเป็นลวดลายเวียนวนประดับด้วยเม็ดเทอร์ควอยซ์สีฟ้าและมุกสีขาว แทนสายน้ำที่เต็มไปด้วยต้น water lilly
แต่เมื่อเรือน้อยเทียบท่าที่ปราสาท เหล่าอัศวินก็พบว่าเธอสิ้นใจแล้วโดยที่ทุกคนไม่รู้ว่าเธอคือใครและกำลังจะไปไหน ช่างน่าเศร้านักเพราะรักเขาข้างเดียว ตัวเซอร์ลานสลอตเองก็ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเธอ
กำไลวงนี้ทำจากทองเหลืองปั๊มลาย ฝังมุกและเทอร์ควอยซ์ ปลายเปิดปรับไซส์ได้ หนา 2 นิ้ว ค่อนข้างมีน้ำหนักไม่ก๊องแก๊ง
ปล. บทกลอนนี้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดโดยจอห์น วิลเลียม วอเตอร์เฮ้าส์ วาดไว้ในปี คศ 1888
Comments