ลูกค้าบางท่านสงสัยว่าเพชรที่ใช้ในเครื่องประดับโบราณกับเพชรสมัยนี้ต่างกันยังไง แม่หมีควายเลยรวบรวมมาตั้งแต่วิธีการเจียระนัยที่เก่าแก่ที่สุดไล่มาจนถึงเพชรยุคนี้ค่ะ
1. เพชรซีก
เป็นวิธีการเจียระนัยที่เก่าแก่ที่สุด ย้อนหลังไปได้ร่วมพันปีตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโมกุลของอินเดีย
เพชรซีกก็คือเพชรแท้ที่ถูกนำมาตัดโดยเครื่องมิอแบบโบราณ ค่านิยมในสมัยนั้นคือมักจะคงธรรมชาติของความเป็นเพชรและคงน้ำหนักของเพชรให้มากที่สุดโดยไม่ไปขัดแต่งอะไรมาก เพชรซีกเลยมักมีรูปทรงอิสระ เจียเหลี่ยมแบบหยาบๆ ด้านเดียว ก้นแบน แล้วก็มักมีสีเจือเหลือง เจือน้ำตาล เจือเทา ขาวขุ่นๆ สีน้ำนม
2. เพชรโรสคัท
การเจียแบบโรสคัทหรือเหลี่ยมกุหลาบหรือเหลี่ยมลูกโลกก็จะอัพเลเวลขึ้นมาจากเพชรซีก
การเจียเพชรแบบโรสคัทมาจากกลีบดอกกุหลาบที่กำลังบาน โดยเจียให้ฐานด้านล่างแบนราบ ด้านบนเจียเป็นโดมโค้งมน เจียเหลี่ยมให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม เริ่มต้นตั้งแต่ 3 เหลี่ยมไปจนสูงสุดได้แค่ 24 เหลี่ยม เหลี่ยมน้อยก็ทำให้กระจายแสงได้น้อย ไม่ค่อยเล่นไฟ ประกายที่เห็นจะละมุนตามากกว่าเพชรสมัยนี้ บางคนก็บอกว่ามันดูโรแมนติกดีค่ะ
แต่ข้อที่ดีมากๆ ของเพชรโรส คัทเมื่อเทียบกับเพชรสมัยนี้ก็คือ ในน้ำหนักกะรัตที่เท่ากัน เพชรโรส คัทจะดูมีขนาดที่ใหญ่กว่าเพราะด้านบนเจียเป็นทรงโดมเลยดูเหมือนได้เพชรเม็ดใหญ่กว่า
3. เพชร old mine cut และ old European cut
เพชรทั้งสองชนิดนี้ก็เป็นวิธีการเจียระนัยที่ใหม่ขึ้นมาอีก ก็คือเริ่มที่กลางศตวรรษที่ 17 ซึ่งตอนนั้นศูนย์กลางการค้าเพชรของโลกย้ายจากอินเดียมาอยู่ยุโรปแล้วค่ะ
เริ่มมีการนำเพชรทั้งก้อนมาเจียโดยไม่หั่นแบ่งเป็นชิ้นๆ รูปทรงเพชรก็เลยเป็นก้อนกลมคล้ายกับก้อนผลึกเพชรดิบที่ได้มาจากเหมือง โดยการเจียระนัยจะตัดแค่ยอดแหลมด้านหน้าออกไปแล้วก็ลบมุมเบาๆทั้งสี่ด้านให้โค้งมนนิดๆ แล้วเจียเหลี่ยมทั้งด้านหน้าและด้านก้นเพชร ออกมาได้ทั้งหมด 64 เหลี่ยม เพชรเหลี่ยมใหม่นี้มีหน้าตารูปร่างใกล้เคียงก้อนเพชรดิบจากเหมือง ก็เลยถูกตั้งชื่อว่า "Old Mine Cut Diamond" mine ที่แปลว่าเหมืองนั่นเองค่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน เพชร Old Mine Cut ที่มีรูปหน้าสี่เหลี่ยมมนคล้ายหมอน ก็ถูกดัดแปลงให้เป็นทรงกลมแล้วตั้งชื่อใหม่ว่า "Old European Cut"
พูดง่ายๆ ก็คือรูปทรงทั้งสองแบบถูกคิดค้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ต่างกันตรงที่ old mine cut มีหน้าเพชรเป็นสี่เหลี่ยมมน ส่วน old European cut มีหน้าทรงกลม นอกนั้นก็คล้ายกันเกือบหมด รวมไปถึงเหลี่ยมที่ก้นเพชรที่ปลายแหลมถูกเฉือนทิ้ง หรือที่คนไทยเรียก"เพชรก้นตัด" นั่นเองค่ะ
4. เพชร round briliant cut หรือเพชรเหลี่ยมเกสร
การเจียแบบ modern round brillian cut เป็นวิธีที่คิดค้นตั้งแต่ปี คศ. 1900 โดยการใช้การเจียเพชรแบบ "Old Mine Cut เป็นต้นแบบ แต่ปรับระดับหน้าเพชรที่เดิมยกสูงให้ลดต่ำลง พร้อมกับปรับก้นเพชรให้ตื้นขึ้นมา เลยทำให้เหลี่ยมหน้าเพชรแคบลง บางลง และไม่ตัดปลายแหลมที่ก้นเพชร มีเหลี่ยมทั้งหมด 57 เหลี่ยม แล้วรูปทรงใหม่นี้ก็กลายเป็นแบบมาตรฐานในการเจียระนัยเพชรมาจนถึงปัจจุบัน
และจาก modern round brilliant cut ก็มีการปรับประยุกต์แยกย่อยไปเป็นทรงอื่นๆ อีกมากมาย จำง่ายๆว่า ถ้าเพชรเจียกลมมาตรฐาน 57 เหลี่ยมก็จะเรียกเพชรเหลี่ยมเกสร แต่ถ้าเป็นเพชรรูปทรงอื่นที่ไม่ใช่ทรงกลม อย่างเช่น ทรงหัวใจ ทรงมาคียส์ เราจะเรียกรวมว่าเพชรแฟนซี
คราวหน้าเราจะมาแยกเพชรแท้กับเพชรสังเคราะห์กันค่ะ
ขอบคุณภาพจาก อินเตอร์เนต
Comments