top of page
maxisbnf

แรกรักฝังใจไม่อาจลืม

วันนี้เป็นวันแห่งความรักก็ต้องเล่าเรื่องราวแห่งความรักที่โลกไม่ลืม และรักที่ไม่สมหวังมักเป็นที่จดจำ อย่างเข่นความรักของนายแพทย์ฟิลิป ซิโบลด์ชาวเยอรมันกับสาวญี่ปุ่นนามโอทากิ


สองร้อยกว่าปีก่อน นายแพทย์ซิโบลด์ซึ่งเป็นทั้งแพทย์ นักสำรวจ นักพฤกษศาสตร์ได้เดินทางมากับกองเรือพาณิชย์ของ บ.อิสต์ อินเดีย มายังเมืองท่านางาซากิของญี่ปุ่น โดยมาทำหน้าที่แพทย์รักษาชาวพื้นเมืองและนำวิทยาการทางตะวันตกมาเผยแพร่ที่ญี่ปุ่น


นายแพทย์ซิโบลด์สมัยเดินทางไปญี่ปุ่น


สมัยนั้นบริเวณพื้นที่อยู่อาศัยของชาวตะวันตกจะแยกเด็ดขาดกับชาวญี่ปุ่น มีเพียงแม่บ้านหรือหญิงบริการบางพวกเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นความรักระหว่างนายแพทย์ซิโบลด์กับโอทากิซึ่งไปทำหน้าที่แม่บ้าน


สาวน้อยโอทากิ


มีครั้งหนึ่งนายแพทย์ซิโบลด์เคยเอาสตรอเบอรี่ซึ่งยังไม่มีการปลูกที่ญี่ปุ่นมาให้โอทากิลองชิมซึ่งเธอชื่นชอบมากและเป็นโมเม้นต์ฝังใจไม่รู้ลืม


ต่อมาทั้งคู่ก็ได้แต่งงานจนมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อโคซูโมโตะ อิเนะ ชีวิตโดยรวมก็น่าจะราบรื่นดีใช่ไม๊คะ นายแพทย์ซิโบลด์ก็ยังทำงานรักษาผู้ป่วยควบคู่กับการเดินทางสำรวจพืชพรรณพื้นเมืองของญี่ปุ่นโดยได้จ้างคนมาวาดแผนที่ตามที่ต่างๆที่ไปสำรวจเพื่อบันทึกแหล่งของพืช แต่โชคร้ายเมื่อครั้งหนึ่งเรือที่โดยสารไปเกิดอัปปาง หีบใส่แผนที่เปิดออก เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นที่ไปด้วยดันเห็นเข้าและเข้าใจผิดว่ามาสอดแนม เพราะสมัยนั้นทางญี่ปุ่นยังปิดประเทศและไม่ค่อยไว้ใจชาวตะวันตก ถึงแม้จะมีการค้าขายกันก็แบบระแวงๆ


แพทย์หญิงอิเนะ ลูกสาวของทั้งคู่


จุดนี้เองทำให้มีคำสั่งเนรเทศนายแพทย์ซิโบลด์ออกจากญี่ปุ่น และเขาก็จำใจจากลูกเมียสุดที่รักกลับไปเยอรมัน ไปพร้อมกระถางต้นอาจิไซหรือต้นไฮเดรนเยีย ซึ่งต่อมาได้เอาไปเพาะพันธุ์ที่เยอรมันและตั้งชื่อว่า Otakusa ซึ่งหมายถึงชื่อของภรรยา Otaki นั่นเอง


ผลงานทางพฤกษศาสตร์ของนายแพทย์ซิโบลด์


ทั้งสองคนยังคงเขียนจดหมายหากัน จวบจนโอทากิได้เขียนจดหมายฉบับสุดท้ายขอให้เขาลืมเธอเสีย เพราะไม่มีทางที่จะได้กลับมาอยู่คู่กันอีกแล้ว จากจดหมายฉบับนี้ ทำให้ต่างฝ่ายต่างตัดใจไปมีครอบครัวใหม่ แต่ใครเลยจะนึกว่าวันหนึ่งจะมีเหตุการณ์บีบบังคับให้ญี่ปุ่นต้องเปิดประเทศ ทำให้คนต่างชาติเดินทางไปญี่ปุ่นได้


ดังนั้น เมื่อมีโอกาส นายแพทย์ซิโบลด์รีบเดินทางไปนางาซากิเพื่อไปพบกับภรรยาสุดที่รักอีกครั้ง แต่เมื่อพบก็ไม่สามารถเคียงคู่กันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีความรับผิดชอบกับครอบครัวใหม่ รักในอดีตเป็นได้เพียงความทรงจำ


นายแพทย์ซิโบลด์


จากนั้น ทั้งคู่ไม่ได้กลับมาพบกันอีกเลย จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต นายแพทย์ซิโบลด์ได้เขียนไว้ว่า เมื่อฉันจากไป ฉันจะโบยบินไปยังดินแดนอันไกลโพ้น ที่ฉันเคยไปใช้ชีวิตอันสงบสุขเมื่อนานแสนนานมาแล้ว


ส่วนโอทากิ เมื่อใกล้วาระสุดท้าย เธอได้ขอกินสตรอเบอรี่เพื่อระลึกถึงรักแรกที่ต้องพรากจากกันตลอดกาล


เศร้านะคะ รักมากแต่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ทิ้งไว้แต่ตำนานดอกอาจิไซที่โลกไม่ลืม ทิ้งท้ายอีกนิดว่าลูกสาวของทั้งคู่ได้จบการศึกษาเป็นแพทย์หญิงคนแรกของญี่ปุ่น


ปล. ซึ้งๆ ก็ขแขายสร้อยดอกอาจิไซ รักแรกไม่รู้ลืม ดูรูปในเม้นท์นะคะ

2 views0 comments

Comments


bottom of page